โรคภูมิแพ้ คือ?
เป็นโรคที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายอย่างผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ ส่งผลให้มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นในอวัยวะที่สัมผัสหรือไวต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ตัวไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ อาหาร ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เป็นต้น ซึ่งในร่างกายคนปกติจะแพ้สารก่อภูมิแพ้ได้น้อยมากหรืออาจจะไม่มีอาการ ส่วนผู้ป่วยโรคภูมิแพ้แต่ละรายจะมีอาการเกิดขึ้นแตกต่างกันและรุนแรงไม่เท่ากัน แม้จะเป็นสารก่อภูมิแพ้ชนิดเดียวกันก็ตาม ขึ้นอยู่กับชนิดของสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับและการตอบสนองของอวัยวะนั้นๆ

อาการของโรค
1. กลุ่มภูมิแพ้อากาศ พบได้ในเด็กตั้งแต่อายุประมาณ 2 ปี และสามารถเป็นได้ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ โรคนี้จะทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกเรื้อรัง เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ ทำให้มีอาการคัดจมูก จาม มีน้ำมูก โดยการมีน้ำมูกในบางคนอาจมีน้ำมูกไหลลงคอ ทำให้เกิดเสียงแหบตามมา หรือในบางรายพบว่ามีน้ำมูกที่ค้างในโพรงจมูก ทำให้เกิดเลือดกำเดา หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ
2. กลุ่มภูมิแพ้อาหาร เป็นปฏิกิริยาของร่างกาย เมื่อได้รับประทานอาหารที่แพ้ ผ่านกลไกภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดอาการในระบบต่างๆ ของร่างกาย โดยอาการอาจเกิดขึ้นเพียงระบบเดียวหรือหลายระบบ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การแพ้อาหารเกิดขึ้นได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อาหารที่เป็นสาเหตุของการแพ้ในเด็กเล็กที่พบมาก
คือ นมวัว ไข่ ถั่วเหลือง แป้งสาลี ถั่วลิสง สำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่พบว่า อาหารทะเลเป็นสาเหตุสำคัญของการแพ้อาหารที่พบบ่อย ซึ่งบางครั้ง ผู้ที่แพ้อาหารอาจรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของอาหารที่แพ้เข้าไปโดยไม่รู้ตัว
จนเกิดอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
3. กลุ่มภูมิแพ้ผิวหนัง พบบ่อยในเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 1-2 เดือน จนถึงเด็กโต มักมีอาการเป็นผื่นแห้งแดง คันตามบริเวณผิวหนัง เป็นลมพิษ ตาบวม ปากบวม โดยการเกิดภูมิแพ้ในกลุ่มนี้จะมีความสัมพันธ์กับกลุ่มภูมิแพ้อาหาร ซึ่งควรได้รับการตรวจวินิจฉัยให้ชัดเจน เพราะอาจเกิดการแพ้อาหารจริง หรืออาจเป็นเพียงอาการแสดงจากการได้รับการกระตุ้นจากอาหารเหล่านั้น

การรักษากับการฝังเข็ม
1. ลดอาการแพ้ เช่น จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก หรือคันตา
2. ปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน ช่วยลดการตอบสนองเกินจริงของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้
3. ลดความเครียดและเพิ่มความผ่อนคลาย ซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดอาการกำเริบที่เกิดจากความเครียด
4. เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้การขจัดสารพิษในร่างกายมีประสิทธิภาพ
5. ลดการพึ่งพายา สำหรับบางคนที่มีอาการเรื้อรัง การฝังเข็มอาจช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยา เช่น ยาต้านฮีสตามีน

เป้าหมายในการรักษา
1. ลดอาการแพ้ที่เกิดขึ้น บรรเทาอาการที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ เช่น น้ำมูกไหล คัดจมูก จาม ผื่นคัน หรืออาการบวม
2. ป้องกันการเกิดอาการแพ้ในอนาคต ลดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ สร้างความทนทานต่อสารก่อภูมิแพ้ในระยะยาว
3. เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ลดผลกระทบจากอาการแพ้ที่รบกวนชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การเรียน หรือการนอนหลับ
4. ควบคุมและจัดการปัจจัยกระตุ้น หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้หรือปัจจัยกระตุ้น เช่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ อาหาร หรือสารเคมี
5. ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน ป้องกันโรคหรือปัญหาอื่นที่อาจเกิดจากภูมิแพ้ เช่น ไซนัสอักเสบ หอบหืด หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
6. ลดการพึ่งพายารักษาในระยะยาว ใช้วิธีการรักษาที่ช่วยลดการใช้ยา เช่น การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) หรือการฝังเข็ม